จารุณี สุขสวัสดิ์

ประวัติจารุณีเริ่มการศึกษาระดับอนุบาลที่โรงเรียนทองสุโชติ
ศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึง 6 ที่โรงเรียนธรรมศิริศึกษา อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 7 ที่โรงเรียนพิบูลย์อุปถัมภ์ กรุงเทพฯ
ระดับชั้นมัธยมศึกษาที่ โรงเรียนบางกะปิ
ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ที่โรงเรียนพาณิชยการเจ้าพระยา
สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จากคณะรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา
และระดับปริญญาโท จากสำนักวิชาวิทยาศาตร์เครื่องสำอาง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง[1]

ก่อนจะเป็นที่รู้จักในวงการบันเทิง จารุณีเคยทำงานในสวนสนุกแฮปปี้แลนด์ คลองจั่น ทำหน้าที่จำหน่ายบัตรผ่านประตูและเครื่องดื่ม นอกจากนั้นยังรับหน้าที่แสดงเป็นสโนว์ไวท์ในขบวนพาเหรดของสวนสนุก จารุณีเคยทำงานรับจ้างเป็นจับกังเพื่อส่งเสียตนเองและครอบครัว จารุณีแสดงภาพยนตร์เรื่อง “สวัสดีคุณครู” เป็นเรื่องแรกเมื่อปี พ.ศ. 2520 และเป็นนางเอกเต็มตัวในเรื่องที่สอง “รักแล้วรอหน่อย” (เนื้อเรื่องเดียวกับ “วนาลี”) คู่กับ สรพงศ์ ชาตรี

ในปี พ.ศ. 2523 บ้านทรายทอง ซึ่งกำกับการแสดงโดยรุจน์ รณภพ แห่งบริษัทไฟว์สตาร์โปรดักชั่น เป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จท่วมท้น ทำรายได้สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 9 ล้านบาทซึ่งถือว่ามหาศาลในยุคนั้น และทำให้ชื่อของจารุณี สุขสวัสดิ์ เป็นที่ต้องการของบรรดาผู้สร้าง ผู้กำกับ สายหนังและแฟนๆ ภาพยนตร์ไทยจนได้รับสมญานามว่าเป็น “ดาราทอง” ในทันที ภาพยนตร์ที่จารุณีแสดงโดยเฉพาะในยุคเฟื่องฟูนั้น แฟนๆ ของเธอจะเรียกติดปากโดยอัตโนมัติว่า “หนังจารุณี” ทั้งๆ ที่จารุณีไม่ได้เป็นผู้กำกับการแสดง เพียงแต่ทำหน้าที่เป็นนักแสดงเท่านั้น ภาพยนตร์ที่จารุณีแสดงส่วนใหญ่มักได้รับการพากย์เสียงโดย ดวงดาว จารุจินดา

จารุณี สุขสวัสดิ์ มีงานหลั่งไหลเข้ามามากมายจนได้ชื่อว่าเป็น “นางเอกคิวทอง” สามารถแสดงได้ทุกบทบาททั้งบทชีวิต บทบู๊ บทแก่น บทตลก และได้รับความนิยมสูงสุดในยุคนั้น มีแฟนภาพยนตร์เป็นจำนวนมากจนถึงขนาดมีการก่อตั้ง “ชมรมสุขสวัสดิ์” ขึ้นมาเพื่อเผยแพร่แลกเปลี่ยนข่าวสารกันในกลุ่มแฟนคลับผู้นิยมชมชอบจารุณี

แม้ว่าจารุณี สุขสวัสดิ์ จะมีชื่อเสียงโด่งดังสุดขีดระดับตำนานประวัติศาสตร์ “ราชินีหนังไทย (ราชินีจอเงิน)” นับจากคุณ เพชรา เชาวราษฎร์ แต่ในด้านชีวิตส่วนตัวแล้ว ต้องทำงานหนักตลอดเวลา ไม่ได้พักผ่อนเพียงพอ และเจอะเจอมรสุมชีวิตหลายครั้ง เช่น เกิดอุบัติเหตุครั้งแรกขณะถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “ลูกสาวกำนัน” และอุบัติเหตุครั้งที่สอง ระหว่างเดินทางในกองถ่ายภาพยนตร์เรื่อง “บ้านสีดอกรัก” หลังจากนั้นไม่นาน รายได้และจำนวนการผลิตหนังไทยก็ลดลง เป็นผลให้จารุณี สุขสวัสดิ์ ต้องเผชิญกับปัญหาชีวิตมากมาย ทั้งด้านสุขภาพ การเงิน การงาน และครอบครัว ทำให้ต้องหยุดงานภาพยนตร์ไปช่วงระยะเวลาหนึ่งทั้งๆ ที่ยังมีชื่อเสียงอยู่ ต่อมาจารุณี สุขสวัสดิ์ ได้เข้าสู่วงการละครโทรทัศน์ มีผลงาน เช่น ตะรุเตา คือหัตถาครองพิภพ ไฟลวง รังหนาว ขิงก็ราข่าก็แรง นิมิตมาร ฯลฯ มีผลงานเพลงสองชุด และงานบันเทิงด้านต่างๆ เช่น พิธีกร ละครเวที เป็นต้น

ใส่ความเห็น